วิธีเลือกรองเท้าหัดเดิน By คุณหมอกฤษณ์
ถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน
วันนี้จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ “การเลือกรองเท้าให้กับลูก…!!!”
By คุณหมอกฤษณ์ รพ. เวชธานี
(คุณหมอเฉพาะทางด้านกระดูก และข้อเด็ก)
เปิดประเด็นมาซีเรียสเชียว ก็ใช่น่ะสิ!!! เรื่องนี้ต้องมันต้องซีเรียสนะครับผม
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะเท้าเนี้ยเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่สำคัญมาก และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในแต่ละวัน ส่วนของร่างกายที่เราใช้มากที่สุดอันดับต้นๆ น่าจะเป็นเท้านี่แหละ
“สำคัญยังไง?”
เท้าคือพื้นฐานสำคัญของการเจริญเติบโตของเด็กเลยก็ว่าได้
เพราะหลังจากที่เด็กเริ่มสังเกต ด้วยการมอง ด้วยการฟัง พวกเขาจะเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว ด้วยการเดินไปสัมผัส หากเด็กมีสุขภาพเท้าที่ดี มีขาที่แข็งแรง เขาก็พร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกกว้าง และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
“ว่าด้วยเรื่องของเท้า…”
หนึ่งในปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่เดินเข้ามาปรึกษาหมอบ่อยมาก
นั่นก็คืือเรื่องการเลือกรองเท้าให้กับลูก ?
และส่วนใหญ่ หมอก็จะแนะนำการเลือกรองเท้าตามช่วงอายุของเด็ก ดังนี้นะครับ
>> เด็กอายุ 0-1 ปี (Infancy) ช่วงนี้เด็กยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้รองเท้า เพียงแต่อาจใช้ถุงเท้าใส่เดินเพื่อป้องกันความร้อนหรือเย็น
>> เด็กอายุ 1-2 ปี (Young Infant) เด็กจะเริ่มหัดเดิน โดยธรรมชาติของการพัฒนากระดูกเท้าแล้ว ในระยะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รองเท้า การใช้รองเท้าในระยะนี้ มีจุดประสงค์เพียงป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดลองภายนอก รองเท้าที่เหมาะสมในระยะนี้ควรจะนิ่มและยืดหยุ่นได้ดี เพื่อให้เกิดอิสระในการเดิน คล้ายกับการไม่สวมรองเท้า รองเท้าที่หนาและแข็งเกินไปจะไปเพิ่มแรงกดที่เท้าเพิ่มขึ้นและส่งผลลบ ในการพัฒนากระดูกเท้าได้
>> เด็กอายุ 2-4 ปี (Middle aged Infant) ช่วงนี้ทำใจไว้เลยครับ เขาจะเดิน เดิน เดิน เดิน ไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ตามกฎธรรมชาติของการเจริญเติบโตของกระดูกเท้านั้น จะต้องมีแรงกระทำจากน้ำหนักตัวปกติเทียบกับการไม่ใส่รองเท้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้รองเท้าเพื่อรับแรงกระแทกพิเศษ ในช่วงอายุนี้อาจสังเกตุว่าเท้าและข้อเท้ามีการอาการเอียงและแบนได้ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รองเท้าที่มีอุ้งเท้า หรือแก้เท้าแบนแต่อย่างใด
>> เด็กอายุ 4-6 ปี (Late Infant age) เป็นช่วงที่เด็กมีกิจกรรมทางกีฬามากขึ้น มีการกระโดด ปีนป่าย กระดูกเท้ามีการพัฒนาและปรับตัวทางด้านรูปทรงของเท้าอย่างรวดเร็ว รองเท้าที่แนะนำในระยะนี้ คือ รองเท้าหุ้มข้อเท้าและล็อคข้างใต้ข้อเท้าได้ ไม่ยวบเกินไป ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ซิลิโคนเสริมส้นเท้า เพื่อรองรับแรงกระแทกเพราะเด็กมีไขมันใต้สนเท้าที่รับแรงกระแทกได้ดีอยู่แล้ว รองเท้าควรเป็นพื้นราบ ช่วงปลายเท้าควรยืดหยุ่นดี โดยสังเกตได้จากการเดินไปข้างหน้า ส่วนปลายรองเท้าควรมีการงอ ส่วนกลางรองเท้าไม่ควรงอ
>> เด็กอายุ 6-10 ปี (Elementary School age) กระดูกเท้ามีการปรับตัวเข้ารูปมากขึ้น ซึ่งในผู้ชายจะมีการขยาย ส่วนของข้อกลางเท้าและในผู้หญิงจะพัฒนาในการปรับรูปเท้าให้เรียวมากขึ้น มีการศึกษาพบว่าในระยะนี้จะมีแรงกดกระทำต่อกระดูกส้นเท้ามากขึ้น จากกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นจึงอาจปรับเลือกรองเท้าที่มีส่วนของส้นเท้า ยกสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้น้ำหนักถ่ายเทมาที่ปลายเท้าแทน
>> เด็กอายุ 12-15 ปี (Late School age) กระดูกมีการพัฒนาและปรับตัวจนสมบูรณ์ ในผู้หญิงกระดูกเท้าจะโตเต็มที่ในช่วงอายุ 12-13 ปี ขณะในผู้ชายประมาณ 14-15 ปี การเลือกรองเท้าในวัยนี้จึงคล้ายกับการเลือกใช้รองเท้าในผู้ใหญ่
“ทริค”
นอกจากหลักการเลือกรองเท้าที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีทริคสำหรับการเลือกซื้อรองเท้ามาฝากกันด้วย
1.Fit เท้าเด็กมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ควรมีการตรวจเช็คระการคับ หลวม ของรองเท้า บางครั้งอาจพบว่าต้องเปลี่ยนรองเท้าถึง 3 ไซส์ ใน 1 ปี ตรวจสอบรอยแดงของข้อเท้า ถ้ามีรอยแดงใต้ส้นเท้าแสดงว่ารองเท้านั้นสั้นไป ถ้ามีรอยแดงนอกส้นเท้า ในส่วนข้อต่อด้านบน แสดงว่ารองเท้าเตี้ยไป ถ้ามีรอยแดงที่ขอบนอกหรือขอบในเท้าแสดงว่ารองเท้าแคบไป
2. รองเท้าควรมีความยาวมากกว่าเท้า ประมาณ 2/3 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่มากพอในการป้องกันการบีบของนิ้วเท้า
3. ควรเลือกซื้อหรือลอง รองเท้าในช่วงบ่ายๆ เพราะเป็นช่วงที่เท้าจะขยายขนาด และบวมเกิดขึ้นหลังจากการใช้งานมานานๆเพื่อป้องกันการซื้อรองเท้าคับเกินไป
“ทิ้งทาย”
การเลือกรองเท้าให้เด็กในช่วงแต่ละอายุ มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยวิวัฒนาการการพัฒนากระดูกเท้านั้นจะต้องมีแรงกระทำที่พอเหมาะต่อกระดูกเท้า เพื่อเลียนแบบการเจริญที่ปกติ จากการเดินเท้าเปล่า (BareFoot) จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้รองเท้าหรืออุปกรณ์ดัดเท้า เสริมรองเท้าในเด็กที่ไม่มีปัญหาความผิดปกติ ล่าสุดได้ลองรองเท้า Littlebluelamp ให้กับลูกวัย 3 ขวบ และหลานสาว ซึ่งตอบโจทย์ในการเลือกรองเท้าสำหรับเด็กไม่ควรที่จะเลือกที่สวยงามอย่างเดียว คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกที่ลูกใส่สบาย ผลิตจากวัสดุที่คงทนและมีคุณภาพ ที่สำคัญต้องมีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น เสมือนเดินเท้าเปล่าให้ได้มากที่สุด สังเกตุได้ว่าลูกสาวดูสวมใส่สบาย เพราะด้านในของตัวรองเท้านุ่มและยืดหยุ่นได้ดี ตัวพื้นรองเท้ายึดเกาะได้ดี ดูแข็งแรงและคงทน
ที่สำคัญคือมีน้ำหนักที่เบามากอยากแนะนำคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกซื้อรองเท้าให้ลูก อย่าพึ่งซื้อรองเท้าหลายคู่นะครับ เพราะเท้าของเด็กจะโตเร็วมากครับ ถ้าซื้อหลายอาจจะใส่ไม่ทัน ควรเลือกที่คงทน เน้นใส่สบาย และเหมาะกับรูปเท้าเป็นหลักนะครับ